ทำไมร้านค้าออนไลน์ในประเทศไทยไม่ค่อยประสบความสำเร็จ
จากประสบการณ์หลายๆควมาคิดเห็น ส่วนมากก็จะเกี่ยวกับ เรื่องความยุ่งยากบ้าง อยากเห็นสินค้าจริงๆก่อน กลัวว่านู่นนี้จะไม่ครบ ห้างร้านใกล้บ้าน ก็มี ซึ่งต่างจากต่างประเทศ ที่ห้างร้าน อยู่ไกลจากที่พักอาศัยมาก ทางเลือก การซื้อของออนไลน์ในต่างประเทศ จึงเป็นการสะดวก และนิยม แต่คนไทยส่วนมากที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับการชำระเงินผ่าน Internetสาเหตุหลักๆ
1. ร้านค้าภายในท้องถิ่นมีอยู่มากมาย เช่น Lotus,Big C,CareFul,Makro และร้าน Minimart ถั่วไปที่ผุดขึ้นมายังกับเห็ด อยากได้สินค้าชนิดใดก็จะเดินไปซื้อด้วยตนเอง2. บุคคลส่วนมากทั่วไปในประเทศไทยยังขาดความรู้ในการใช้ Internet การที่จะให้มาซื้อของ ผ่านทาง Internet ก็ยังเป็นเรื่องที่ยาก ดังนั้นการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ต้องทั่วถึง
3. ผู้ประกอบส่วนใหญ่นึกถึงหน้าตาความสวยงามของเว็บไซต์อย่างเดียวแต่สิ่งสำคัญต้องคำนึงถึงผู้ใช้ที่เข้ามาในเว็บไซต์ด้วยคนไทยใจร้อน เข้าเว็บช้านิดช้าหน่อยก็จะไม่รอกันแล้วครับ ดังนั้นผู้ประกอบควรเล็งเห็นถึงความสำคัญ ในการ โปรโมทสินค้าและบริการ ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า
4. ส่วนมากเว็บไซต์นั้นจะเน้นการขายของมากกว่าการบริการ จึงขาดส่วนของการอธิบายเปรียบสินค้าว่าตัวไหนดีกว่ากัน ดังนั้นเว็บไวต์เหล่านั้นอาจไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆของลูกค้าต่างจากเว็บที่คอยให้คำปรึกษา
ลูกค้าว่าควรซื้อ ยี่ห้อ ชนิดไหน ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า
5. เครื่องมือสื่อสารกับเจ้าของเว็บ ผู้ประกอบการ E-commerce ควรเป็น info@"ชื่อเมล".com
มากกว่า ฟรีเมล อย่างเช่น Hotmail,G-Mail,Yahoo เพื่อให้ลูกค้าติดต่อเจ้าของเว็บได้อย่างแน่นอน
ปัจจัยที่ทำให้ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ
ปัจจัยในสิ่งนี้ ผู้ประกอบการต้องมีการดูแลเอาใจใส่ ในการขายสินค้าแต่ละชิ้น ผู้ประกอบต้องคิดวิเคราะห์ว่า สินค้าชิ้นที่จะขายนั้น มีคู่แข่งมากเท่าไร กลุ่มลูกค้าที่เราจะขายนั้นมีความต้องการเยอะหรือปล่าว ต้องศึกษาเกี่ยวสินค้านั้นอย่างละเอียด เพื่อให้การอธิบายรายละเอียดสินค้าให้กับลูกค้าสนใจมากยิ่งขึ้นปัจจัยที่ทำให้ E-commerce ในประเทศไทยประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย
1. การนำเสนอสินค้าและบริการของสินค้าให้ลูกค้าเข้าใจง่ายมากที่สุด ระบุรายละเอียดในการชำระเงิน การส่งสินค้า,การส่งคืนสินค้า ต่อลูกค้า
2. สามารถบอกรายละเอียดสินค้าให้ลูกค้าได้ ซึ่งเป็นที่น่าเชื่อถือในระดับนึงเปรียบเทียบให้ลูกค้าได้ว่าต้องการสินค้าแบบใดที่เหมาะกับฐานะลูกค้า
3. กำหนดกลุ่มเป้าหมายเพิ่มแรงจูงใจให้ลูกค้าเข้ามาซื้อสินค้าเราโดยการโปรโมทเว็บไซต์อย่างต่อเนื่องเพิ่มการประชาสัมพันธ์กับช่องทางอื่นๆอาจจะทำเป็น Fanpage การทำ Backlink หรือมีบริการคืนกำไรให้กลับลูกค้า (เพราะยังไงในทุกสังคมก็ชอบเรื่องนี้กันทั้งนั้น )
4.การทำเว็บไซต์ให้ดุสะอาดตาเพื่อแรงจูงใจให้ลูกค้าดูน่าค้นหา แต่ตกแต่งเยอะเกินไปก็ต้องระวังเรื่องความล้าช้าของเว็บไซต์ด้วยนะครับ นี่คือสิ่งสำคัญ ถ้าหน้าเว็บของเราโหลดช้าลูกค้าก็จะไม่สนใจ เปรียบกับว่า เราเป็นลูกค้า สมมุติว่า เราต้องการหาข้อมูลอะไร เว็บนั้นโหลดช้า เราก็เปลี่ยนเป้าหมายทันทีครับ
ควรละเอียดเนื้อหาให้มากกว่านี้ง่ายๆๆหาเพิ่มเติมนะคับโดยรวมดีแล้ว
ตอบลบเราคิดว่านะ e-commerce นั้นงะเป็นกระแสขององค์กรที่ต้องทำมากกว่า แม้ว่าจะไม่มีการขาย ก็ต้องทำเพื่อหน้าตา และภาพลักษณ์คิดว่าคงขายไม่ได้ดีเท่าที่ควร ต้องออกสู่ตลาดโลก จึงจะอยู่ได้
ตอบลบตรงจุดดี คือเป็นของที่แค่ดูเผินๆก็พอเลือกได้ไม่อายคนเวลาซื้อ ส่งถึงที่ แล้วก็ถูกกว่าไปซื้อข้างนอกและถ้าเราทำได้จริงก็จะประสบความสำเร็จดีเยี่ยม
เนื้อหาโดยรวมดีแล้วดีแล้ว
ตอบลบecommerce เป็นการค้าที่เปิด24ชั่วโมง ง่ายต่อการติดต่อในการซื้อขายออนไลน์
คนไทยส่วนมากกลัว....จ่ายเงินไปแล้วจะไม่ได้สิค้า....ก็เลยไม่ค่อยกล้าที่สั่งซื้อสินค้าออนไลน์
ตอบลบขอบคุณน่ะค่ะ สำหรับความรู้ และคำแนะนำที่ดี สำหรับ การทำธุรกิจ E-commerce ^^
ตอบลบเป็นความรู้มากครับกำลัง ต้องการเลย
ตอบลบเนื้อหาด้วยรวมดีมากกว่าแต่น้อยไปหน่อยครับ!!!
ตอบลบเห็นด้วยคับ คือคนไทยกลัวว่าจ่ายเงินแล้วจะไม่ได้สินค้า ก้เลยไม่กล้าสั่งซื้อกัน
ตอบลบขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ ช่วยให้คนที่กำลังจะทำ ecommerce ได้ความรู้เพิ่มขึ้นและสามารถไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดีเรยค่ะ
ตอบลบให้ความรู้ดีคับ
ตอบลบรายละเอียดของเนื้อหาอ่านแล้วเข้าใจง่ายดีจังค่ะ มีประโยชน์ในการทำธุรกิจ E-commerce
ตอบลบเป็นแนวทางในการขายสินค้าทางเว็บไซต์ได้ดีเลยค่ะ^__^
ตอบลบได้ความรู้เพิ่มขึ้นเยอะเลยค่ะ มีประโยชน์ในการสร้างเว็บที่ดีได้ด้วยค่ะ
ตอบลบเนื้อหาดีค่ะ แต่ควรหาเพิ่มเติ่มอีกซักนิดนะค่ะ และควรหารูปภาพมาตกแต่งนิดหน่อย เพื่อดึงดูดความสนใจจากผู้อ่านมากกว่านี้นะค่ะ
ตอบลบเนื้อหาดีค่ะ..ทำให้ผู้ที่คิดจะสร้างธุรกิจออนไลน์มีความรู้เพิ่มจากเดิมที่มีอยู่ และเข้าใจง่ายด้วย
ตอบลบ